Powered by Spearhead Software Labs Joomla Facebook Like Button

newscms thaihealth c bglmnopstwy2

แพทย์ชี้โรคอัลไซเมอร์เริ่มแรกอาการไม่รุนแรง แต่ปล่อยไว้นานอาจประสาทหลอน อาละวาด แนะวิธีปฏิบัติตัวชะลอการเกิดโรค

          นายแพทย์ปานเนตร  ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าโรคอัลไซเมอร์คือภาวะสมองเสื่อมที่พบมากที่สุด เกิดจากการฝ่อตัวของสมอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อโครงสร้างและการทำงานของสมองบริเวณนั้นๆ นอกจากนี้ยังพบว่าเส้นเลือดในสมองค่อยๆ ถูกทำลาย ส่งผลให้ประสิทธิภาพของเซลล์ประสาทลดลงและถูกทำลายทีละน้อย จนแพร่กระจายไปสู่สมองหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะสมองที่ทำหน้าที่ควบคุมความคิด ความทรงจำ และการใช้ภาษา  อาการของโรคอัลไซเมอร์ในระยะเริ่มต้นจะเริ่มจากการหลงลืมที่ไม่รุนแรง เช่น ลืมบทสนทนาหรือเหตุการณ์ ที่เพิ่งเกิดขึ้น วางของในที่ที่ไม่น่าจะไปวางไว้ ทำอะไรซ้ำๆ หลายครั้ง อารมณ์แปรปรวน ระยะกลางคือผู้ป่วยจะยิ่งมีปัญหาด้านความทรงจำ จำชื่อของคนรู้จักไม่ได้ ทำกิจวัตรประจำวันที่มีหลายขั้นตอนได้ยากขึ้น ระยะสุดท้ายเป็นระยะที่อาการของโรครุนแรงมากขึ้น โดยมีอาการประสาทหลอน อาละวาด เรียกร้องความสนใจ น้ำหนักลด มีอาการชัก  บางครั้งอาการของโรคที่แย่ลงอย่างกะทันหัน อาจมีผลมาจากการใช้ยา การติดเชื้อ โรคหลอดเลือดในสมอง ทั้งนี้ปัญหาเกี่ยวกับความทรงจำอาจไม่ได้มีสาเหตุมาจากโรคสมองเสื่อมเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดขึ้นได้จากภาวะซึมเศร้า ความเครียด ผลข้างเคียงจากยารักษาโรค หรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ ซึ่งแพทย์จะสามารถช่วยตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการที่เกิดขึ้นได้

          นายแพทย์ประพันธ์  พงศ์คณิตานนท์  ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ  กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรักษาโรคอัลไซเมอร์ในปัจจุบันมีเพียงการใช้ยารักษาและการดูแลที่จะช่วยบรรเทาอาการด้านความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วยได้เพียงชั่วคราว หรืออาจช่วยให้พัฒนาการของโรคช้าลงได้ในบางราย โดยการดูแลรักษา ได้แก่

          1. การวางแผนดูแลผู้ป่วย โดยแพทย์ร่วมกับสาขาวิชาชีพอื่น ๆ ซึ่งจะมีการพูดคุยสอบถามถึงสิ่งที่ผู้ป่วยหรือผู้ดูแลอาจต้องการความช่วยเหลือ

          2. สร้างสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับผู้ป่วย มีการปรับสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิต รวมทั้งการสร้างนิสัยและกิจวัตรประจำวันที่ไม่จำเป็นต้องใช้การนึกหรือจำอาจทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

          3. การออกกำลังกาย เป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพและควรปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ โดยอาจให้ผู้ป่วยเดินเป็นประจำทุก ๆ วัน เพื่อปรับอารมณ์ให้ดีขึ้น สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเดิน อาจขี่จักรยานอยู่กับที่หรือ ออกกำลังกายโดยนั่งบนเก้าอี้แทน

          4. การรับประทานอาหาร ควรเสริมด้วยน้ำปั่นจากผลไม้ผสมนมหรือโยเกิร์ตที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีแคลอรีสูง และอาจเพิ่มผงโปรตีนผสมลงไป หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน

          5. การใช้ยารักษา แพทย์จะสั่งจ่ายยาเพื่อช่วยบรรเทาอาการบางชนิดและชะลอการพัฒนาของโรค

          6. การบำบัดทางจิต โดยนักจิตวิทยา เช่น การกระตุ้นสมองช่วยปรับปรุงความสามารถด้านความทรงจำ ความสามารถทางภาษา และทักษะการแก้ปัญหา รวมทั้งการบำบัดด้วยการปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม ดนตรีบำบัด ศิลปะบำบัด

          สาเหตุการเกิดโรคอัลไซเมอร์ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด จึงยังไม่มีวิธีป้องกันการเกิดโรค แต่ยังมีวิธีที่อาจช่วยชะลอการเริ่มต้นของโรคด้วยการปฏิบัติดังนี้ เลิกสูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หมั่นออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30 นาที ใน 5 วันต่อสัปดาห์ ควบคุมระดับความดันโลหิต และที่สำคัญควรฝึกการทำงานของสมอง เช่น อ่านหนังสือ เล่นดนตรี เล่นกีฬา เป็นต้น

19 กุมภาพันธ์ 2561 - ศูนย์การเรียนรู้ สสส.