Powered by Spearhead Software Labs Joomla Facebook Like Button

newscms thaihealth c aglmquxz1349

สังคมปัจจุบันมีสื่อมากมาย ทำให้ผู้รับชมสื่อต้องพบเจอกับสื่อที่ดีและไม่ดี บางคนถึงขั้นเรียนแบบพฤติกรรมทั้งดีและไม่ดีซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตนเองและสังคมได้

          น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า มีผลงานวิจัย พบว่าข่าวการฆ่าตัวตายสัมพันธ์กับอัตราการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนมากน้อยตามระยะเวลา ความถี่และปริมาณข่าว โดยการเลียนแบบมักเกิดขึ้นภายหลังการรับข่าวที่น่าสะเทือนใจ บรรยายวิธีการกระทำโดยละเอียด นำเสนอซ้ำบ่อยๆ หรือทำให้คิดว่าเป็นเรื่องน่าประทับใจ ในทางจิตวิทยาการรับข้อมูลข่าวสารเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ถึงนาทีมีผลต่อการตัดสินใจของผู้มีแนวโน้มฆ่าตัวตาย

          นพ.ณัฐกร จำปาทอง ผอ.โรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สาเหตุการฆ่าตัวตายมีหลายปัจจัย ทั้งสาเหตุทางด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น โรคซึมเศร้าที่พบมากขึ้น ในปัจจุบันเนื่องจากสภาพสังคมเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุทางด้านจิตวิญญาณ สาเหตุทางด้านสติปัญญา สาเหตุด้านครอบครัว สาเหตุทางด้านพฤติกรรมและสังคม วัฒนธรรมสิ่งแวดล้อม สาเหตุด้านเศรษฐกิจ ซึ่งผู้ที่พยายามฆ่าตัวตาย หรือฆ่าตัวตายได้สำเร็จ มักมีปัญหาความยุ่งยากใจมากกว่าหนึ่งปัญหาเสมอ ดังนั้น จึงไม่ควรด่วนสรุปสาเหตุการฆ่าตัวตายของคนคนหนึ่ง

          นพ.ณัฐกรกล่าวต่อว่า สำหรับบุคคลทั่วไปขอให้หมั่นสังเกตคนใกล้ชิด คนในครอบครัว หากพบมีอาการเศร้า เบื่อ เซ็ง คิดวนเวียน นอนไม่หลับ มองโลกในแง่ลบ แยกตัว ซึ่งเป็นอาการบ่งชี้ของโรคซึมเศร้า หรือคนที่มักพูด หรือโพสต์ข้อความเชิงสั่งเสีย ไม่อยากมีชีวิตอยู่ หมดหวังในชีวิต สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสัญญาณเสี่ยงฆ่าตัวตาย

          ดังนั้นขอให้รีบเข้าไปพูดคุย แสดงความเต็มใจ ช่วยเหลือ ยอมรับปัญหาของเขา ให้กำลังใจ ไม่ปล่อยให้อยู่ลำพังคนเดียว ชักชวนออกไปทำกิจกรรม ข้างนอก และพาไปรับบริการที่สถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน หรือปรึกษาสายด่วนสุขภาพจิต โทร. 1323 หรือเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มเติมที่แอพพลิเคชั่นสบายใจ (sabaijai)

14 มีนาคม 2561 - ศูนย์การเรียนรู้ สสส.