Powered by Spearhead Software Labs Joomla Facebook Like Button

01

วันที่ 7 มกราคม 2564 นายอัมพล ทองพุ ปลัด​เทศบาล​ ปฏิบัติ​หน้าที่​นายก​เทศมนตรี​นคร​อุบล​ราชธานี​ ขอความร่วมมือประชาชน ได้เฝ้าระวัง รักษาสุขอนามัยส่วนตัว เพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19

สวมหน้ากากอนามัย

หมั่นล้างมือบ่อยๆ

- เว้นระยะห่าง

- ใช้ช้อนส่วนตัว

- สแกนไทยชนะเมื่อเข้าไปในที่ชุมชน

Banner : วิภารัตน์
Pr. ณัทนิษฐ์ หินนาค
ทีม​ฝ่าย​บริการ​และ​เผยแพร่​วิชาการ
IMG 1
 
วันที่ 6 มกราคม 2564 สถานธนานุบาล (โรงรับจำนำ) เทศบาลนครอุบลราชธานี ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยรับจำนำ สำหรับผู้ที่นำทรัพย์สินมาจำนำ ระหว่าง 4 ม.ค. - 26 ก.พ. 2564
 
02
 
Banner/วิภารัตน์
Pr.จันทนิภา
ทีมฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ

01

วันที่ 5 มกราคม 2564 ดร.มนตรี ธนะคุณ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เป็นประธานการประเมินผลงานพนักงานครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้มีหรือเลื่อนวิทยฐานะสูงขึ้น รอบตุลาคม 2563 ณ สถานศึกษาในสังกัดสำนักการศึกษา เทศบาลนครอุบลราชธานี ประกอบด้วยโรงเรียนเทศบาล 3 สามัคคีวิทยาคาร ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กโรงเรียนเทศบาล 3 สามัคคีวิทยาคาร และโรงเรียนเทศบาล 5 ชุมชนก้านเหลือง

02

03

04

05

06

07

08

09

10

 

พบเหตุเพลิงไหม้_แจ้งด่วน 045-245500 หรือ 199 ตลอด 24 ชั่วโมง
แจ้งร้องทุกข์ ร้องเรียน ผ่านออนไลน์ ”ทราฟฟี่ ฟองดูว์" #แอดไลน์ “เพิ่มเพื่อนใน LINE” พิมพ์ @traffyfondue
Cr.ปาริชาติ ก้านน้อย
Pr.กิตติยา
ทีมฝ่ายบริการและเผยคแพร่วิชาการ
1
วันที่ 5 มกราคม 2564 เจ้าหน้าที่งานส่งเสริมสุขภาพ กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครอุบลราชธานี ร่วมกับ อาสาสมัครสาธารณสุขชุมชน (อสม.) ลงพื้นที่ตรวจสอบรายชื่อของประชาชนเขตรับผิดชอบ ชุมชนวิทยาลัยเทคนิค 2 ที่เดินทางเข้าชุมชน เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19
2
 
3
 
4
 
เฝ้าระวัง
ควบคุม
ป้องกัน
ไวรัส COVID 19
Cr. ภาพ สุรชัย สุวรรณฆังคะ
Pr. ณัทนิษฐ์ หินนาค
ทีมฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ
01
วันที่ 4 มกราคม 2564 นายกรัฐมนตรี ออกข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับที่ 16 ใช้มาตรการ 8 ข้อ คุม COVID-19 โดยเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ห้ามใช้อาคาร สถานที่เสี่ยงแพร่โรค ห้ามการบริโภคสุราในร้านอาหาร และขอความร่วมมือเอกชนให้พนักงานทำงานที่บ้าน มีผลพรุ่งนี้ (4 ม.ค.)
วันนี้ (3 ม.ค.2564) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับที่ 16 โดยมีรายละเอียดว่า
ตามที่ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.2563 และต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ 8 จนถึงวันที่ 15 ม.ค.2564 นั้น
โดยที่การระบาดระลอกใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้ขยายขอบเขตการแพร่โรคออกเป็นวงกว้างกระจายไปในหลายพื้นที่ และการตรวจพบผู้ป่วยยืนยันรายใหม่เฉพาะกรณีเป็นการติดเชื้อภายในประเทศมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ประกอบกับมีการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรากฎอาการของโรค เป็นเหตุให้เชื้อโรคแพร่ออกไปในลักษณะที่เป็น
กลุ่มก้อน นอกจากนี้ พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏบัติงานเพื่อควบคุมโรคพบว่า มีผู้ติดเชื้อโรคบางส่วนปกปิดข้อมูลการเดินทางทำให้ขั้นตอนการสอบสวนโรคเกิดความล่าช้าและป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องจนส่งผลให้เกิดเป็นการระบาดระลอกใหม่ขึ้นเป็นวงกว้าง
รัฐบาลจึงมีความจำเป็นที่ต้องกำหนดและบังคับใช้บรรดามาตรการต่าง ๆ เพื่อเข้าแก้ไขและระงับยับยั้งสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวนี้ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบการบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ.2534 นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดและข้อปฏิบัติแก่ส่วนราชการทั้งหลาย ดังต่อไปนี้
1. การห้ามใช้อาคาร หรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามการใช้อาคารหรือสถานที่ของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาทุกประเภทที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สถานการณที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด เพื่อจัดการเรียนการสอน การสอบ การฝึกอบรม หรือการทำกิจกรรมใด ๆ ที่มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้
(1) เป็นการเรียนการสอน หรือกิจกรรมเพื่อการสื่อสารแบบทางไกล หรือด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์
(2) เป็นการใช้อาคารหรือสถานที่เพื่อให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ อุปถัมภ์ หรือให้การอุปการะบุคคล
(3) เป็นการจัดกิจกรรมของทางราชการ หรือกิจกรรมเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยรับอนุญาตจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด
(4) เป็นโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษาที่มีขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนรวมทั้งโรงเรียนไม่เกิน 120 คน หรือเป็นโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
2. การห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามการจัดกิจกรรมในเขตพื้นที่สถานการณ์กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมากและมีโอกาสติดต่อสัมผัสกันโดยง่าย เช่น การประชุม การสัมมนา การจัดเลี้ยง การแจกจ่ายอาหาร หรือสิ่งของต่าง ๆ เว้นแต่เป็นการดำเนินการโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือเป็นการจัดกิจกรรมในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นสถานที่กักกันโณคโดยมีมาตรการทางสาธารณสุขรองรับ
ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด โดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด กำหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ความรับผิดชอบ
3. การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด อาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อพิจารณาสั่งปิดสถานบริการ สถานประกอบการที่มีลักษณะคล้ายสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด
4. เงื่อนไขการเปิดดำเนินการ ในเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ให้สถานที่ กิจการ หรือการทำกิจกรรม ดังต่อไปนี้เปิดดำเนินการได้ภายใต้เงื่อนไข เงื่อนเวลา และการจัดระบบและระเบียบต่าง ๆ ที่กำหนด
(1) การจำหน่ายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ให้จัดระเบียบการเข้าใช้บริการ จำนวนผู้นั่งบริโภคในร้าน การจัดสถานที่ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติและมาตรการป้องกันโรค โดยอาจให้เป็นลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่น โดยให้ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงมหาดไทยและศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข ร่วมกันพิจารณาประเมินกำหนดรูปแบบและกำกับการดำเนินการตามข้อปฏิบัติและมาตรการดังกล่าวของแต่ละพื้นที่จังหวัดให้มีความเหมาะสม
(2) การจำหน่ายสุรา สำหรับร้านอาคารหรือสถานที่ซึ่งจำหน่ายสุรา ห้ามการบริโภคสุราและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในร้าน
(3) ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม หรือสถานที่จัดนิทรรศการ ร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาเก็ต หรือสถานประกอบการอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ให้เปิดทำการได้ตามเวลาปกติของสถานที่นั้น ๆ ภายใต้การดำเนินมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
5. มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อป้องกันระงับยับยั้งการแพร่โรคที่สอดคล้องกับสถานการณ์ของแต่ละเขตพื้นที่สถานการณ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือผู้ว่าราชการจังหวัด อาจพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อในการสั่งปิด จำกัด หรือห้ามการดำเนินการของพื้นที่ สถานที่ หรือพาหนะ หรือสั่งให้งดการทำกิจกรรมอื่นในเขตพื้นที่รับผิดชอบซึ่งมีความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคเพิ่มเติมนอกเหนือจากที่กำหนดได้ โดยให้ดำเนินการตามมาตรการ หรือแนวปฏิบัติตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 15)
6. การตรวจคัดกรองการเดินทางข้ามจังหวัด ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจและคัดกรองการเดินทางโดยใช้เส้นทางคมนาคมข้ามเขตพื้นที่จังหวัด โดยเฉพาะการเดินทางของบุคคลจากเขตพื้นที่สถานการณ์ที่กำหนดให้เป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด ทั้งนี้ ให้ดำเนินการตามมาตรการที่ ศปก.ศบค.กำหนด โดยพิจารณาถึงความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ และต้องไม่เป็นการก่อความเดือดร้อนแก่ประชาชนเกินสมควรแก่เหตุ
ให้ประชาชนงดหรือชะลอการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดเว้นแต่กรณีมีเหตุจำเป็นซึ่งต้องแสดงเหตุผลและหลักฐานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ รวมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนด อันอาจทำให้ไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและทำให้ต้องใช้ระยะเวลาการเดินทางมากกว่าปกติ
7. ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการภาคเอกชนพิจารณารูปแบบการปฏิบัติงานในช่วงระยะเวลานี้ ซึ่งอาจเป็นการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง หรือสลับวัน หรือการเหลื่อมเวลาเข้าปฏิบัติงาน เพื่อลดจำนวนผู้ปฏิบัติงานและปริมาณการเดินทาง ซึ่งเป็นมาตรการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
8. ให้คณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตรวจสอบกลั่นกรองและเสนอนายกรัฐมนตรี เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ผ่อนคลาย หรือกระชับมาตรการที่ใช้บังคับกับสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมเพิ่มเติมได้เพื่อความเหมาะสมต่อสถานการณ์ตามที่เห็นสมควร
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.2564 เวลา 06.00 น. เป็นต้นไป
 
02
 
03
04
 
 
05
 
Cr. ข้อมูลจาก : https://news.thaipbs.or.th/content/299867
Pr. สยามกมล
ทีมฝ่ายบริการและเผยแพร่วิชาการ

Subcategories